ต้นสาย คือ คำตอบ จริงหรือ?

     เมื่อถามถึง อุตสาหกรรมธุรกิจเครือข่าย หรือ Multi Level Marketing ที่มีผู้เกี่ยวข้องทั่วโลกหลายล้านคน และมีวงเงินหมุนเวียนถึง 114 พันล้านเหรียญสหรัฐทั่วโลก (ข้อมูลจาก www.dsa.org หรือองค์การธุรกิจขายตรงโลก) คนที่ทราบดีถึงความทรงพลังของธุรกิจที่จะทำให้ผู้ทำธุรกิจร่ำรวยเป็นมหาเศรษฐีได้ และมีอิสระภาพทางการเงิน ถึงกับเกษียณตัวเองได้ ก็อยากจะเป็นต้นสายกันทุกคน หลายคนเป็นต้นสายมาแล้วหลายๆต่อหลายๆบริษัท เปลี่ยนมันทุกปี แต่ยังไม่สามารถพบคำตอบที่ตนเองต้องการได้ ยังคงตกอยู่ในวังวนของการสปอนเซอร์ สร้างสายงาน สร้างแล้วหาย ตื่นเต้นแป๊ปๆ แล้วก็เลิก แล้วก็พากันย้ายไปเป็นต้นสายบริษัทเปิดใหม่อื่นๆอีก

     จริงๆแล้วความใหม่ของธุรกิจ หรือการเป็นต้นสาย อาจทำให้เราได้เงินมาก ได้ไว ได้ก่อนคนอื่นก็จริง หากแต่ยังไม่ใช่คำตอบสุดท้าย เพราะจริงๆแล้วเราต้องการองค์ประกอบที่ครบถ้วน องค์ประกอบอื่นๆ ได้แก่

     สินค้า –> ที่ต้องมีการซื้อซ้ำ ใช้แล้วหมด หมดแล้วซื้อซ้ำได้อีก เช่น สินค้าอาหารเสริม และความงาม ที่ผู้บริโภคจะยอมจ่ายเงิน เพราะความพึงพอใจของตน และคุณภาพสินค้าที่ดี จะทำให้เกิดการซื้อซ้ำโดยอัตโนมัติ หรือ ที่เรียกว่า Auto Run, นอกจากนี้ ควรต้องมีสินค้าอุปโภคบริโภค ที่จำเป็นต้องใช้ประจำวัน ประเภท สบู่ ยาสีฟัน น้ำยาล้างจาน และอื่นๆ เพราะว่า หลายๆบ้าน ไม่ได้กินอาหารเสริม แต่ยังไงยังต้องอาบน้ำ ถูสบู่ แปรงฟัน อยู่ดี

     แนวคิดของเจ้าของ –> เจ้าของธุรกิจ ต้องมีแนวคิดของการให้ การเปิดโอกาสให้ผู้คน ไม่ใช่เปิดเพื่อโกย จากนั้นขายทิ้ง แล้วไปเปิดบริษัทใหม่ เปิดเพื่อกระจายความเสี่ยงธุรกิจเดิมของตนเอง หรือ บางบริษัทเปิดเพื่อโกง ดังนั้น เราจึงควรศึกษาตรงจุดนี้ให้ดี ถ้าเจ้าของและผุ้บริหารเคยมีประสบการณ์ในธุรกิจเครือข่ายมาก่อน จะยิ่งดีมาก เพราะบริษัทจะไม่ตกอยู่ในการบงการของผู้นำธุรกิจที่ชอบย้ายค่าย และเอากลุ่มทีมงาน หรือยอดขายมาเป็นเครื่องต่อรอง

     ขนาดของธุรกิจ –> บริษัทต้องมีแผนการที่จะเติบโตขนาดใหญ่ และเมื่อเวลาผ่านไปต้องทำได้จริง เพราะหากเป็นบริษัทระดับร้อยล้าน หรือ 1-2 พันล้าน นั่นก็หมายความว่า นักธุรกิจที่จะได้เดือนละ 100,000 หรือเดือนละ 1,000,000 ก็จะมีจำนวนน้อยตามไปด้วย ยิ่งมีการขยายตลาดไปต่างประเทศ และมีระบบ One Code ต่อองค์กรได้ทั่วโลก ก็จะยิ่งมีโอกาสทำให้นักธุรกิจได้พบ Financial Freedom ได้เร็วมากยิ่งขึ้น

      บริษัท –> บริษัทต้องมีความมั่นคง ทางด้านการเงิน มีหนี้น้อย หรือไม่มีเลย มีอัตราการทำกำไร และการเติบโตสูง ที่สำคัญระบบการสั่งซื้อสินค้า การกระจายสินค้า การส่งสินค้า ต้องมีรองรับทั่วถึง หรืออย่างน้อยต้องมีแผนที่จะเปิดสาขาให้บริการสมาชิกอย่างครอบคลุม

      แผนรายได้ –> ต้องเป็นแผนแบบกระจายรายได้ “รวยกระจาย จนกระจุก” ทุกคนได้เปอร์เซนต์รายได้เท่ากัน ไม่ใช่จ่ายแบบขั้นบันได ที่จะทำให้คนใหม่ๆ อยู่ไม่ได้ และแน่นอนจะมีแต่คนที่มาเป็นต้นสายเท่านั้น และเป็นต้นสายแบบยกทีมกันมา ถึงจะได้รายได้ขั้นสูงสุดได้เร็ว แต่สุดท้ายเมื่อแผนรายได้ไม่เอื้ออำนวย เมื่อเปิดไปซักระยะคนใหม่อยู่ไม่ได้ ผู้นำก็จะพากันย้ายค่าย สุดท้ายบริษัทก็จะมีแต่ทรงกับทรุด

     แนวคิดของผู้นำ –> ถ้าผู้นำในธุรกิจขายแต่คำว่า “ต้นสาย” ทุกคนก็จะมีแต่แนวคิดว่า “ต้นสาย” คือ คำตอบ แน่นอน 1-2 ปีแรก เราก็ยังใช้คำนี้ในการสปอนเซอร์อยู่ แต่เมื่อผ่านไปเป็นปีที่ 3-5 มันไม่เรียกว่า “ต้นสาย” อีกแล้ว ดาวน์ไลน์เราจะเริ่มหลุดไปอยู่ค่ายอื่นๆ ที่เพิ่งเปิด เพราะเค้าคิดว่าเค้าไปเป็นต้นสาย (ซึ่งเราเป็นผู้ปลูกฝังเอง) มันจะกลายเป็นการทำงาน Active Income ในที่สุด ทั้งๆที่พวกเราที่ทำเครือข่ายต้องการ Passive Income

     วันนี้โอกาสทางธุรกิจเอมสตาร์ (AimStar) นั้นยิ่งใหญ่มากๆ ความสำเร็จและการเติบโตของเอมสตาร์ (AimStar) รองรับความสำเร็จของพวกเราได้ทุกคน ไม่ต้องวิ่งไปเป็นต้นสายที่ไหนอีกแล้ว เกษียณที่นี่ได้เลย ปี 2554 เอมสตาร์ตั้งเป้า 15,000 ล้านบาทให้จบเบ็ดเสร็จ เพื่อการเป็นอันดับ 1 ของประเทศไทย เราจะมีผู้ที่มีรายได้เดือนละ 100,000 บาท เกิน 2,000 คน ถ้าทำได้จริง… มารวยด้วยกันเถอะครับ