แข่งให้ได้เปรียบ

ตรวจสอบความเชี่ยวชาญใน 15 งาน

1) งานวางแผน ใช้สมองมากขึ้น จะใช้ขาน้อยลง : ตลาดที่เราจะลุย, การพิชิตเป้าหมายในแต่ละลำดับชั้น เช่น ตำแหน่ง ทริปตปท., แผนการปฏิบัติการ และการดูแลแผนงาน, คนที่เซียน คือ วางแผน หรือ เก่งภาคสนาม

2) งานลุยภาคสนาม : สอนทีมงานให้เก่ง จากการดูเราทำ เป็นการสอนแบบของจริง ไม่ว่าจะได้หรือไม่ได้ เราก็จะได้เรียนรู้เสมอ

3) งานการประเมินสถานการณ์ : ให้ x-Ray ลงไป 3 ชั้นลึก ทีมงานเราเก่งมั้ย ติดอะไร, ใครไม่พร้อมจะชนะ อย่าคาดหวัง ไม่งั้นจะผิดหวังสูง

4) งานการคุยทบทวน : เมื่อปิดยอด ต้องนัดคุยทีมงาน ใช้การถามนำ ตั้งคำถามให้ตอบ ให้คิด เพื่อขุดรากเหง้า แสดงว่าข้อ 3 เราเก่ง ทำให้เราถามดาวไลน์จนเจอสิ่งที่ใช่ และแนะนำบางปัจจัย “เพื่อปรับเปลี่ยน”

5) งานพัฒนาตน : เรียนรู้จากหนังสือ CD คอร์สการเรียนรู้ ถ้าข้อนี้ดี โจทย์ข้ออื่นจะง่าย, ใส่ของใหม่ๆเพื่อยกระดับตนเอง

6) งานสร้างขวัญและกำลังใจ : เราต้องรู้และเข้าใจว่า “Everything is connected” ถ้าเราพลังตก สภาวะของเราไม่ดี ทีมงานจะพลอยแย่หมด, ข้างหลังเป็นไงก็ช่าง เราต้องยิ้ม พูด เดินหน้าส่งพลังเป็น เป็นคนแมทชิ่งเรื่องเก่ง เล่าเรื่องเป็น

7) งานสร้างสายสัมพันธ์ : ต้องใช้ทั้งปฏิสัมพันธ์ และคนที่คุณเป็น เช่น ถ้าคุณเป็นคนแฟร์กับคนอื่น คนจะคุยว่าคุณเป็นคนดี ถ้าทำตัวไม่ดี คนจะเม้าท์กันและทำให้เรามีสายสัมพันธ์ที่ไม่ดีได้

8) งานเคลื่อนคน : มีความรู้แต่สร้างพลังงานระดับสูงไม่ได้ ก็เติบโตไม่ได้ ในงานประชุม และสัมมนาต่างๆ จะเติมพลังให้ทีมและได้ความรู้ **วิชานี้ต้องฝึกก่อน ทำให้เก่ง สำเร็จเร็ว**

9) งานสอนต่อ และปั้นคนสอนต่อ : ทักษะเรืองใดเราเก่ง เราสอนต่อได้เลย กล้าๆจัดสอน

10) งานสร้างคนให้เติบโต : ไม่ว่าโตชั้นไหน เราก็จะมีรายได้เพิ่ม เชื่อมั่นเพิ่ม ดึงดูดผู้คนต่อได้

11) งานดึง และเพิ่มพูนศักยภาพผู้คน : ส่งพลังความรู้ โปรโมทเข้า why ช่วยให้ดึงศักยภาพคนออกมา , เชื่อมั่นตนเองเพิ่ม การก้าวต่อไปจะง่ายขึ้น

12) งานการสื่อสาร : ต้องดูแลทัศนคติเชิงบวกของเรา ไม่วิพากษ์วิจารณ์ไปทั่ว เลือกส่งข่าวสารที่เน้นการเคลื่อนตัวทีมงาน และการไม่เข้าฟังก์ชันเกิดการสื่อสารกลายๆ ว่าไม่จำเป็นไปสู่องค์กร พูดหรือไม่พูดแต่การแสดงออกของเราคือการสื่อสาร คำพูดต้องเป๊ะ ตย. Less is more พูดเนื้อๆได้แก่น ดีกว่าพูดเยอะแต่จับประเด็นอะไรไม่ได้

13) งานปั้นผู้นำ : ศาสตร์สมัยใหม่บอกว่าผู้นำฝึกได้ แต่ต้องมีวิธีการที่ถูกต้อง ควรเข้าหลักสูตรถัดไปคือ “ผู้นำ 5 ระดับ” ทั้งหมดเกี่ยวกับ หนังสือ cd สัมมนา ที่ทีมเราใช้ และต้องทำทุกวัน ไม่ใช่อยากทำก็ทำ

14) งานการใช้เทคโนโลยี และเครื่องมืออื่นๆ : เราอาจไม่เชี่ยวชาญ แต่ทีมเราเก่ง ก็สามารถช่วยสนับสนุนกันได้

15) งานการสร้างพลังทีม : คนของเราเข้าฟังก์ชั่น ทำงานพร้อมๆกัน รักกัน พูดบวก ไม่นินทา

ตั้งใจฝึกฝน ไม่เกินปีครึ่ง มีรายได้ต่อเดือนเกิน 300,000 ต่อเดือนได้ แต่ในงานประจำต้องเก่งมาก และต้องสู้กันถึง 20 ปี

องค์กรที่มีแต้มต่อในการแข่งขัน

1) องค์กรที่ผู้คนมีแรงบันดาลใจ : ชีวิตสร้างมาจากข้างใน Inside Out, หรือ อัตลักษณ์ Identity, เราคือคนที่มุ่งเน้นผลประโยชน์ตนเอง หรือ ทำเพื่อผู้อื่น, เราต้องมีแรงบันดาลใจที่ยิ่งใหญ่เสมอ

2) องค์กรที่มีองค์ความรู้ : สินค้า, โอกาสทางธุรกิจ ให้รู้เลยว่าความรู้ของทีมงานเรา บ่งบอกแบรนด์ของเรา

3) องค์กรที่มีความร่วมแรงร่วมใจ : บรรลุเป้าหมายเกิด win win situation

4) องค์กรที่แต่ละคนมีไฟในการทำงาน

5) องค์กรที่มีสายสัมพันธ์และพลังทีม

6) องค์กรที่แต่ละคนทำกิจกรรมที่ส่งเสริมการบรรลุเป้าหมาย

7) องค์กรที่แต่ละคน อยู่อย่างมีความหมายในชีวิต : เราหนึ่งคนมีความหมายต่อคนอีกหมื่นคน บริษัทสมัยนี้เป็น Value based company ไม่ใช่มุ่งเน้นทำกำไร

8) องค์กรที่แต่ละคนมีความสุข และพึงพอใจ จากวิธีที่ถูกต้อง

วินัย 4 ประการในการสร้างความได้เปรียบ

1) มุ่งเน้นสิ่งที่สำคัญ : ที่เกี่ยวกับการสร้างความสำเร็จ นั่นคือความเชี่ยวชาญ 15 เรื่อง ข้างต้น

2) ดำเนินการตามมาตรการวัดผลแบบชี้นำ : เช่น ถ้าเราตั้งเป้าลดน้ำหนัก 10 กก. เราต้องไปวัดผลที่ Cal ที่กินเข้าไป และที่เผาผลาญ ไม่ใช่โฟกัสวัดผลที่ นน.

3) ประกบคะแนนและเข็มรายสัปดาห์

4) สร้างพันธะรับผิดชอบร่วมกันอย่างสม่ำเสมอ

 

 

“คนเก่งจะชนะเกมส์ แต่ทีมเวิร์คและปัญญาเท่านั้น จะชนะการแข่งขัน”

ขอบคุณครับ / หนึ่ง พัสกร