Tag เอ็มสตาร์

The Secret of Millionaire Mind

     งานใหญ่อลังการแห่งปี 2556 ที่สุดแห่งการรวมตัวกันของ Together Group, Clover Group, Togther PLUS และ Lives International เพื่อเปิดผังความคิด ของนักธุรกิจยุคใหม่ คิดอย่างไร ทำแบบไหน ถึงทำกำไรจากธุรกิจเอมสตาร์ (Aim Star) กว่า 1,000,000 บาทต่อเดือน “The Secret of Millionaire Mind”

เอมสตาร์, aimstar, aim star, เอ็มสตาร์, together plus, clover, lives international

สุดยอดงานใหญ่อลังการแห่งปี 2556

ฟังคมความคิดเงินล้าน เพื่อนำไปต่อยอดธุรกิจ เพื่อสร้างชีวิตของเพื่อนๆ ได้อย่างแท้จริง และมั่นคง โดย Tripple Diamond Star 3 คน คือ คุณธนะสิทธิ์ พรศิริกุลนันท์ (นุก), คุณธเนศ ลีลาภรณ์ (ทอม) และคุณวชิราภรณ์ อุณหประเสริฐกูล (หลิน) ทั้งหมด มีอายุแค่ 30 ต้นๆ เค้าทำอย่างไร สำรองที่นั่งด่วน 150 บาท มีจำนวนจำกัด ที่อิมพีเรียลสำโรง วันอาทิตย์ที่ 21 ก.ค. 2556 เริ่มเวลา 13:00 น.

The Network of Buying Channel

เมื่อวันอาทิตย์ที่ 16 มิ.ย. 2556 ที่่ผ่านมา ผมได้มีโอกาสมีส่วนร่วมในการพูด OPP ฉบับภาษาอังกฤษ เป็นครั้งแรกในเมืองไทย ที่ Together PLUS International ร่วมกับคุณป๊อป ปฎิภาค, น้องเฟิร์น สวนาถ, Mr.Rich Ray โดยผมได้มีโอกาสแบ่งปันประมาณ 10 นาที

เพื่อนๆ สามารถติดตาม วีดีโอของผมชุดนั้น ได้บน YouTube นะครับ

วันนั้นเอง มีชาวต่างชาติ และชาวไทย เข้าร่วมฟังรวมกันน่าจะเกิน 50 คน ถือว่าน่าสนใจทีเดียว สำหรับการเริ่มต้นจ้ด OPP International แบบนี้ขึ้นเป็นครั้งแรก ในประเทศไทย (คิดว่านะ)

สิ่งหนึ่งที่ผมได้เรียนรู้ในวันนั้น ซึ่งมีศัพท์หลายอย่างที่เป็นภาษาอังกฤษ จากผู้พูดท่านอื่น (ซึ่งชำนาญภาษาอังกฤษ มากกว่าผมมาก) ซึ่งเจ๋งมากๆหลายคำ แต่คำที่ผมชอบที่สุดคือ “The Network of Buying Channel” หรือ เครือข่ายของผู้ซื้อ

มันสะท้อนถึงอะไร สะท้อนถึงแนวคิดของการสร้างธุรกิจเอมสตาร์ (Aim Star Business) ที่ถูกต้อง ซึ่งจะเป็นรากฐานในการที่เราจะขยายไปยัง AEC หรือ 10 ประเทศในประชาคมอาเซียน (ASEAN) กล่าวคือ การสร้าง “เครือข่ายผู้ซื้อ” ผ่านการพัฒนาคนให้เป็นผู้นำ ไม่ใช่การสร้างเครือข่ายนักขาย ผู้หวังจะกอบโกยผลประโยชน์ระยะสั้น หรือแม้กระทั่ง นักธุรกิจเครือข่ายที่ถนัดการทำแบบ Money Game แต่แฝงมาในคราบของผู้นำ

โดยเฉพาะผมเอง มักจะมีคนมาสปอนเซอร์ผมไปทำเครือข่ายอื่น อยู่เรื่อยๆ ตอนนี้มีทั้ง เจอเนส (Jeunesse), ออกาโน่ โกลด์ (Organo Gold) และอื่นๆอีกประปราย ซึ่งผมมองแล้วว่า คนที่เป็นผู้นำที่มีบทบาทของยี่ห้อเหล่านั้น ย้ายหรือเปลี่ยนที่มาแล้ว 2-3 แห่ง ในรอบ 3 ปี แค่นี้ก็พอจะเดาแนวการทำงาน หรือแนวความคิด ของผู้นำกลุ่มนั้นได้เลยว่าเป็นแบบไหน

สำหรับผมแล้ว “เอมสตาร์ (Aimstar) 100%”

การตลาดแบบใหม่ 4E vs 4P

ในฐานะนักการตลาด นักขาย นักธุรกิจ ผู้บริหาร ที่อยู่ในวงการมา 17 ปี ผมพบว่ามันมีหลักการตลาดอยู่หลักๆอยู่ไม่กี่อย่าง ที่ได้เรียนมา และเอาไปใช้จริงๆจังๆ หนึ่งในนั้นคือหลักการตลาดแบบ 4P นั่นก็คือ Product (ผลิตภัณฑ์), Price (ราคา), Place (ทำเล), Promotion (การลด แลก แจก แถม)

           แต่นั่นมันเก่าล้าสมัยไปซะแล้ว เพราะมันกำลังจะถูกแทนที่ด้วย การตลาดแบบ 4E ซึ่งผมบังเอิญได้รับฟังในรายการวิทยุ และไป google ต่อ จากนั้นลองนำไปใช้ใน ธุรกิจซัคเซสมอร์ (Success More) ของผมดู ซึ่งเกือบทุกข้อ ผมได้ใช้หลักการนี้มาตลอด เพียงแต่ว่าไม่รู้ตัวเท่านั้นเอง หลัก 4E มีอะไรบ้าง ลองอ่านดูนะครับ

1)  Product -> Experience : เปลี่ยนจากการแนะนำสินค้า หรือผลิตภัณฑ์ ให้เป็นการแนะนำประสบการณ์ที่ผู้ใช้จะได้รับ หลังจากได้ใช้ผลิตภัณฑ์ของเราแล้ว จะทำให้ผู้ใช้ (user) หลงรัก “ผลลัพธ์” และ เกิดความภาคภูมิใจ ที่ได้ใช้ผลิตภัณฑ์ของเรา

2) Price -> Exchange : การกำหนดราคา ไม่ได้ถูกกำหนดแบบ cost plus หรือ คิดต้นทุน แล้วบวกกำไรตามที่เจ้าของต้องการ หรือ price war การทำสงครามราคาแข่งกันอีกต่อไป เพราะในโลกแห่ง social media ที่ผู้บริโภคเข้าถึงข้อมูลได้รวดเร็ว และง่ายแค่ปลายนิ้ว ผู้ประกอบการต้องล้มมาหลายรายเพราะการกำหนดราคาผิดพลาด ดังนั้น แทนที่จะสนใจที่ราคา เราควรทำให้ผู้บริโภคมาสนใจที่ “คุณค่า” หรือ Value ของสินค้าที่ซื้อไปมากกว่า นักการตลาดที่เก่งจะเบี่ยงเบน เรื่องราคา โดยทำให้ผู้ซื้อรู้สึก คุ้ม ได้คุณค่า และแก้ปัญหาได้ หลังจากที่ได้ใช้ผลิตภัณฑ์ของตนแล้ว

 

aimstar, lives international, aim star, MLM, network marketing, 4E, 4P

หลักการตลาดแบบ 4E

          3) Place ->Everywhere : สมัยก่อนเราจะสนใจเรื่องทำเลที่ตั้ง สถานที่ หน้าร้าน ฮวงจุ้ย (บางคนลามไปถึง เลขที่ร้าน, นางกวัก และอื่นๆ) แต่เป็นที่แน่ชัดแล้วว่า ธุรกิจอะไรที่สามารถทำให้ผู้ซื้อเข้าถึงตัวเอง ตัวผลิตภัณฑ์ หรือแบรนด์ของตัวเองได้ จากทุกที่ทุกเวลา นั่นทำให้เค้านำหน้าคู่แข่งไป 1 ก้าวแล้ว ดังนั้น หากลูกค้าสามารถซื้อผลิตภัณฑ์ของเราได้จากบนอินเตอร์เน็ท (Internet) สมาร์ทโฟน (Smart Phone) ไม่ว่าจะเป็นแพลตฟอร์มไหน (Platform) ทั้ง iOS และ Android ชำระเงินผ่านบัตรเครดิต หรือ เดบิต จะสร้างความสะดวก และลูกค้าจะติดใจแน่นอน

          4) Promotion -> Evangelism : การดึงดูดลูกค้าด้วย โปรโมชั่น หรือ การลด แลก แจก แถม สามารถได้เพียงลูกค้าขาจร หรือ User แต่การจะเปลี่ยนเค้าเหล่านั้น ให้ไป ลูกค้าประจำ (Repeated Customer) หรือ สาวก (Evangelism) ของผลิตภัณฑ์เรานั้น ไม่ได้ทำด้วยการอัดโปรโมชั่น มันต้องอาศัยองค์ประกอบ 3 ข้อด้านบน และปัจจัจอื่นๆตามมา เช่น การขนส่งสินค้า การบริการหลังการขาย ทางเลือกในการชำระเงิน การรับประกัน และแม้แต่พนักงาน แต่ที่สำคัญที่สุดคือ “คุณภาพ” ของผลิตภัณฑ์ ที่ต้องโดดเด่น และสูตรที่ทันสมัย ตอบโจทก์ชีวิตของผู้ใช้ได้จริงๆ

 

ซึ่งใน ซักเซสมอร์ (SuccessMore Business) ที่ผมได้นำมาใช้อย่างไม่รู้ตัวแล้วนั้น มันแสดงถึงความเป็นธุรกิจแห่งอนาคต ที่จะสามารถใช้เป็นเครื่องมือในการสร้างชีวิต ไม่ใช่เป็นเพียงแค่อาชีพ ที่ทำเพื่อเลี้ยงชีพ เหมือนธุรกิจอื่นๆอย่างแน่นอน